ในโลกที่การเติบโตของระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง การเรียนรู้อของระบบ AI นั้นมีประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ เพราะจะนั้นคงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าเทคโนโลยีที่มี AIเข้ามามีส่วนร่วมจะมีประสิทธิภาพอย่ามากและดูจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับโลกปัจจุบัน AI ถูกใช้งานในหลายเทคโนโลยี หลายอุตสหกรรม หลายภาคส่วน เช่นระบบ Face ID หรือ การตรวจจับใบหน้าของ Apple ระบบการตรวจจับการทำผิดกฏหมายทางจราจรของกรมขนส่ง ระบบคำสั่งเสียงในสมาร์ทโฟน ระบบการแนะนำคอนเทนต์ที่เราสนใจในสื่อ Platform ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook Youtubeหรือ Tiktok เป็นต้น แต่หนึ่งในเทคโนโลยีที่ AI ถูกนำมาใช้งานได้อย่างทรงพลังนั่นก็คือ Deep Fake
Deep Fake คืออะไร
Deep Fake มาจากคำ 2 คำรวมกัน นั่นคือ Deep Learning และ Fake โดย Deep Learning คือ การเรียนรู้ของระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่สามารถเรียนรู้จากสิ่งเล็กๆ เข้าใจง่าย
ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อนส่วนคำว่า Fake ก็มาจากการปลอมแปลงนั่นเอง โดยหน้าที่หลักๆของเทคโนโลยี Deep Fake นั่นก็คือการตรวจจับใบหน้าของบุคคลหนึ่งและแทนที่หน้าของบุคคลหนึ่ง
ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของ A.I.มาแล้วอย่างการใส่ Filter ต่างๆใน Tiktok หรือ Instragram ซึ่งการตรวจจับใบหน้าของ AI นี้เอง ที่ถูกนำไปต่อยอดเป็นเทคโนโยยี Deep Fake
ซึ่งเคยเป็นกระแสมามาไม่กี่ปีก่อนหน้า ที่หลายคนอาจเคยเห็นมาแล้ว ที่มีคลิปดารา หรือคนดังระดับโลกหลายคนถูกตัดต่อให้แทนที่หน้าของเจ้าของคลิปเอง หรือการนำใบหน้าดาราดัง ไปใส่ในภาพ
ของหนังหลายเรื่องที่ตัวเองไม่ได้แสดงนั่นเอง
การทำงานของระบบ AI
การที่ Deep Fake จะทำงานได้ดี ต้องอาศัยการเรียนรู้ของระบบ AI ที่เรียกว่า “Generative Adversarial Network” หรือ GANs โดยหลักการทำงานก็คือ AI จะแบ่งเป็นสองฝ่าย
นั่นคือฝ่ายที่ทำการสร้างภาพและฝ่ายที่ทำการตรวจ โดยฝ่ายส้รางจะทำการสร้างภาพออกมา ส่วนฝ่ายตรวจก็จะทำการหาจุดบกพร่องของภาพ กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาโดยที่ทุกครั้ง
จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่การที่จะฝึกฝน AI ให้สามารถแทนที่ภาพของบุคคลให้สมจริงได้ต้องอาศัยข้อมูลใบหน้าของบุคคลนั้นอย่างมากและยิ่งฝึกฝน AI มากเท่าไหร่
ผลลัพธ์ที่จะสร้างได้ก็จะยิ่งสมจริงขึ้นมากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง
ข้อดี-ข้อเสียของ Deep Fake
อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนกังวลไม่น้อยกับเทคโนโลยี Deep Fake นั่นคือการนำไปใช้ในทางไม่ถูกต้องอย่างเช่นการปลอมแปลง เพื่อสร้างความวุ่นวาย หรือการหลอกลวงผู้อื่น ซึ่งเราคงปฏิเสธไม่ได้
ว่า Deepfake คือดาบสองคม แต่หากเรามองข้ามข้อเสียของ Deepfake ไปแล้ว ถ้าพูดถึงข้อดีของการที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว หากจะนำมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์
คงเกิดประโยชน์ไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น การนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์หรือซีรีย์ ที่บางเรื่องมีหลายภาคหลายซีซั่น อาจต้องใช้นักแสดงคนนึงทำการแสดงไปเป็นสิบปี และบางครั้ง
นักแสดงก็มีเหตุให้ไม่สามารถถ่ายทำจนจบ(อาจป่วย หรือ เสียชีวิต) ทำให้ต้องใช้เทคโนโลยี Deep Fake เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้ในฉากที่ต้องมีการลดอายุของนัดแสดง
หรืออาจฉากอื่นๆที่อาจเกินการถ่ายทำได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ยังคงพัฒนาอยู่ตลอด ลองจินตนาการดูว่าในอนาคตจะสมจริงมากขึ้นแค่ไหน
การทำงานร่วมกันกับ Meta Human
โดยที่วันนี้เราจะมาทำอะไรที่่สนุกๆกัน อย่างการนำเทคโนโลยี Deepfake มาใช้ร่วมกับ Meta Human หรือมนุษย์ดิจิทัลเสมือนจริง ที่มีความสมจริงระดับรูขุมขน ซึ่งหลายคนคงสงสัย
ว่าทำไมต้องนำมาใช้ร่วมกับ Meta Human แทนที่จะใช้ภาพวิดีโอของคนจริงๆ นั่นก็เพราะว่าการสร้าง Meta Human ขึ้นมาใหม่จะสามารถเลือกรูปหน้าทรงผมหรือรูปร่างได้ใกล้เคียงกับใบหน้าของดารา
ที่เราต้องการนำมาแทนที่ได้มากกว่า จะทำให้ไม่ดูขัดตาและสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยการเคลื่อนไหวของใบหน้านั้นเราจะทำการบันทึกโดย Rokoko Face Capture เครื่องมือบันทึกการเคลื่อนไหวของใบหน้า
ที่มีความแม่นยำ และยังใช้ง่ายทำงานผ่านมือถือได้เลย โดยขั้นตอนหลักๆในการทำงานจะมีดังนี้
ก่อนอื่นก็ต้องหา Reference กันก่อนโดยเหตุผลที่ต้องใช้หน้าดาราก็เเพราะว่ามีข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมากทำให้เอื้ออำนวยต่อการนำมาใช้(การใช้ควรคำนึงถึงข้อกฏหมายด้วย)
โดยควรหารูปหน้าตรงที่แสดงสีหน้าปกติเพื่อให้ง่ายต่อการดูอัตลักษณ์ของใบหน้า เพื่อนำไปสร้าง Meta Human ของเรา
โดยเข้าผ่านทางเว็บไซต์ MetaHuman Creator จากนั้น Login ด้วย Acount ของ Epic Game โดย Account นี้จะทำให้เราสามารถ Export Meta Human ที่สร้างเสร็จไปยัง Unreal Engine ได้ด้วย
จากนั้นเลือก Version Unreal ที่ใช้และกด Launch เพื่อเริ่มสร้างได้เลย
เริ่มจากการเลือกหน้าที่เราคิดว่าใกล้เคียงดาราที่เราจะสร้างให้มากที่สุด จากนั้นอาจเลือกสามใบหน้าที่จะนำมา Blend หรือผสมบางส่วนของใบหน้าเข้าด้วยกัน โดยเลือกจากลักษณะเด่น
ของอวัยะในแต่ละจุดยกตัวอย่างเช่น จมูกจากหน้านึง ใช้ตาของหน้านึง และใช้ปากของอีกหน้านึง เป็นต้น
เมื่อได้รูปหน้าและหน้าตาที่ไกล้เคียงแล้วก็ทำการปรับส่วนที่เหลืออย่างสีผิว ทรงผม หนวดเครา ต่อไป ให้เหทือนต้นแบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการปรับไม่จำเป็นต้องเป๊ะในทีเดียว
สามารถปรับไปมาได้ตลอด และอย่าลืมเลือกรูปร่างหือส่วน Body ให้พอดีกับดาราเป้าหมายด้วย เพราะถ้าใบหน้ากับขนาดตัวไม่สัมพันธ์กันอาจจะดูแปลกได้
เมื่อได้ Metahuman ที่ปรับเสร็จแล้วก็ให้ทำการ Export ไปยัง Unreal Engine และทำการเชื่อมต่อกับ Motion จาก Rokoko ได้เลย (สามารถดูวิธีการได้ที่นี่) หลังจากนั้นเราจะสร้างกล้อง
และจัดตำแหน่งของกล้องให้อยู่ด้านหน้าของโมเดล สามารถปรับ Focal Length และ Focus ของกล้องได้ตามชอบจากนั้นสร้าง Sequence และลากตัวละครเข้าไปใน Sequence
เพื่อ Record motion ใบหน้าและลากกล้องเข้า Sequence เพื่อ Render จากนั้น Render Video สำหรับนำไปประมวลผลกับ Deep Fake ต่อไป
เมื่อได้วิดีโอมาแล้ว เราจะนำมาประมวลผลในโปรแกรมที่มีชือว่า “Deep Face Live “ โดยโปรแกรมจะทำการตรวจจับใบหน้าจากวิดีโอขอเราหรือหน้าของตัวละครต้นฉบับ เพื่อแทนทีด้วยหน้าดารา
ที่เราต้องการ โดยโปรแกรมนี้มีได้มีการเรียนรู้ใบหน้าของดาราไว้มากมายและสร้างเป็นชุด Preset ไว้ให้เราได้เลือกใช้แล้ว แต่อาจมีหน้าต่างการตั้งค่าอยู่หลายส่วนหลังจาก Import วิดีโอ
ตัวละครต้นฉบับ หรือ Meta Human ของเราเข้ามาแล้วให้ทำการตั้งค่าตามนี้จากกันกดประมวลผลได้เลย
โปรแกรมจะทำการคำนวน เฟรมต่อเฟรม ทั้งการตรวจจับและแทนที่ใบหน้า หลังจากประมวลผลจนเสร็จจะได้ภาพเป็นจำนวนมากหรือ Jpeg Sequence สามารถนำไปประมวลผล
ในโปรแกรมอื่นที่สะดวกเพื่อเป็น Video ต่อได้ เพียงแค่นี้เราก็สามารถทำคลิปเลียนแบบคนดัง แถมยังแสดงสีหน้าท่าทางได้ตามใจอีกด้วย
วิดีโอแสดง Work-Flow การทำงาน