เรียนได้ว่าสร้างกระแสได้ไม่น้อยเลยสำหรับ Rokoko Smartsuit Pro2 ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ที่ได้มีการพัฒนาทั้ตัว Hard wear และ Soft wear ให้มีความฉลาดและแม่นยำมายิ่งขึ้น จนทำให้คู่แข่งในตลาด Motion Capture ฟลายๆ เจ้าถึงกลับต้องทำการบ้านในเรื่องนี้กันอย่างยกใหญ่ เพราะด้วยราคาค่าตัวที่ไม่แรงมากนัก จนทำให้ Studio House สามารถเข้าถึงเจ้านวัตกรรมนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะหากเรามองกลับไปในอดีตและราคาต่าตัวต่อคนนั้นอยู่ที่ชุดละล้านกว่าบาท แต่ Rokoko สามารถประหยัดไปได้ว่า 10 เท่าตัวกันเลยทีเดียว โดยทุกคนสามารถเข้าไปอ่านจุดเด่อนและประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจได้จาก ลิ้งค์นี้ เลย
Dfine Digital Reality ได้ติดตามและอัพเดทนวัตกรรมด้าน Motion Capture มาอย่างต่อเนื่องและต้องการให้นวัตกรรมที่ดี และคุณภาพเทียบเท่ากับงานโปรดักชั่นระดับโลกแบบนี้ได้ไปมีส่วนช่วยในการต่อยอดงานมัลติมีเดียของประเทศไทย ให้เกิดเป็นงานที่ดีมีคุณภาพ จึงได้ดำเนินงานและประสานงานในการนำเข้า Rokoko Smartsuit เข้ามาเป็นรายแรก และรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งนอกจากนี้เรายังได้รับใบอนุญาตและเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Rokoko อย่างเป็นทางการอีกด้วย ซึ่งในการที่เรานำเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยนั้น ถือว่าได้รับกระแสตอบรับจากผู้ผลิตงานมัลติมีเดียที่ดีเป็นอย่างมาก ตั้งแต่งานระดับ Freelance จนไปถึงสตูดิโอขนาดใหญ่ที่ทำงานอย่างมืออาชีพ
ส่วนหนึ่งของลูกค้าของเรา
ซึ่งจะเห็นได้ว่านอกจากองค์กรที่ทำงานด้านมัลติมีเดียโดยตรงแล้ว ยังมีหน่วยงานของภาคการศึกษาที่ยังนำนวัตกรรม Motion Capture เข้าไปมีบทบาทในการเรียนการสอนด้วย เพราะปัจจัยที่จะมีส่วนช่วยในการพัฒนางานให้ออกมามีประสิทธิภาพนั้นก็ต้องอาศัยอีกหนึ่งปัจจัยอย่างการศึกษาที่จะช่วยให้พื้นฐานการทำงาน การออกแบบ และในศาตร์ต่างๆ ให้มีความแข็งแรงอีกด้วย ซึ่งทาง Dfine ก็ต้องขอขอบพระคุณลุูกค้าทุกๆ ท่านที่ให้ความไว้วางใจและเลือกให้ Dfine Digital Reality เป็นผู้ดูแลไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ซึ่งนอกจากการทำงานเพียงไม่กี่ขั้นตอน และความแม่นยำของการทำงานแล้วอีกประการหนึ่งที่ทำให้ Rokoko Smartsuit ได้รับความนิยมนั้นก็คงเป็นในเรื่องของการต่อยอดหรือการนำไฟล์ไปใช้ได้กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานต่อได้หลากหลาย อาทิเช่น Unity, Enreal, Blender และอีกมากมาย
