เปรียบเทียบเครื่องแกะสลัก 2 ระบบ CNC vs Ray 3D

เปรียบเทียบเครื่องแกะสลัก 2 ระบบ CNC vs Ray 3D

ในตลาดการแข่งขันของเครื่องที่ใช้ผลิตงานด้าน 3มิติที่นอกจากตลาดเครื่องพิมพ์จะมีการแข่งขันกันในระดับสูงแล้ว ในด้านของตลาดเครื่องระบบแกะสลักหรือเครื่องแบบเลเซอร์ก็มีการแข่งขันสูงไม่แพ้กัน ซึ่งในรูปแบบการใช้งานนั้นทั้งสองแบบนี้มีผลลัพธ์จากการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน เพราะเป็นการสร้างพื้นผิวให้เกิดรูปนูนต่ำ หรือรูปแบบ3มิติเช่นกัน ในวันนี้ Dfine จะขอนำเครื่องทั้ง 2 ระบบนี้มาลองเปรียบเทียบกันดูว่ามีข้อเด่นหรือแตกต่างกันมากนอยแค่ไหน และแต่ละแบบเหมะกับงานชนิดไหนกันบ้าง

ทำความรู้จักทั้ง 2 ระบบ

ขอบคุณภาพจาก www.google.co.th

เครื่องแกะสลักแบบ CNC หรือ Computer Numerical Control เป็นเครื่องแกะสลักพื้นผิวงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้ใช้งานนั้น จำเป็นต้องมีแบบงานอยู่ใฝนโปรแกรมควบคุมเครื่องเสียก่อนจึงจะสามารถทำงานได้ โดยการทำงานของเครื่องนั้น จะใช้ระบบดอกสว่านเป็นตัวสร้างลวดลายลงบนพื้นผิวของวัตถุ ซึ่งสามารถทำให้ตื้นหรือลึกก็อยู่ที่การตั้งค่าของการทำงานในรูปแบบนั้นๆ และวัสดุเครื่อง CNC นี้สามารถสลักได้นั้นมีทั้ง แผ่นเหล็ก อลูมิเนียม ไม้ หรือบางรุ่นสามารถแกะลงบนหินได้เช่นกัน แต่สำหรับหินนั้นต้องสังเกตด้วยนะครับว่าสามารถรองรับแรงของเครื่อง CNC ได้หรือไม่ เพราะในเนื้อหินบางชนิดมีความอ่อน และแข็งที่ไม่สม่ำเสมอกันอาจจะทำให้หินก้อนนั้นเสียหายได้

เครื่อง Ray 3D เป็นหนึ่งในตระกูลเครื่องเลเซอร์พื้นผิวที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหากมิงผิวเผิญอาจจะแยกไม่ออกเลยก็ว่าได้ แต่จุดที่ทำให้เครื่องนี้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันก็คือ ประสิทธิภาพการเลเซอร์ที่มีความแรงกว่าเครื่องเลเซอร์ปกติมาก เพราะโดยทั่วไปแล้วเครื่องเลเซอร์จะมีกำลังในการเลเซอร์จะอยู่ที่ประมาณ 30-50 วัตต์ แต่สำหรับ Ray 3D นั้นจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 60 วัตต์ขึ้นไป ทำให้สามารถเจาะลงไปในเนื้อของวัสดุที่มีความแข็งได้ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส หรือวัสดุเนื้อที่มีความแข็งมากอย่างทองเหลืองก็สามารถเจาะได้เช่นเดียวกัน แต่สำหรับหินนั้นก็คงต้องตรวจสอบเนื้อหินเสียก่อนเพราะหากเป็นหินที่เนื้อไม่ค่อยสม่ำเสมอ สิ่งที่ได้ก็จะไม่สวยงามเช่นกัน

ความแตกต่างของการทำงานของทั้ง 2 ระบบ

ความละเอียดของการแกะสลัก 

ขอบคุณภาพจาก www.google.co.th

CNC ตามที่เราทราบกันว่าเป็นระบบที่ใช้หัวสว่านขนาดเล็ก เป็นตัวเจาะลงไปในวัสดุที่เราต้อวการ แต่ทว่าในความเล็กของสว่านแต่ละขนาดนั้นก็ย่อมมีขีดจำกัดของความสามารถอยู่ด้วยเช่นกัน ในบางครั้งเวลาที่เรานำไปแะในวัสดุที่แข็งมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้สว่านนั้นหัก หรือบิ่นได้ แลยิ่งไปปว่านั้นในบางงานอาจจะต้องการความละเอียดที่ค่อนข้างมาก บางทีหัวเจาะที่เรามีอาจจะเล็กไม่พอสำหรับการทำงาน

Ray 3D ทางเลือกที่ผสานเทคโนโลยีเข้ามาอีกขั้น ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทุกวัสดุ เพียงแค่ตั้งค่ากำไลังไฟที่เหมาะสมก็สามารถที่จะเข้าถึงได้ทุกพื้นผิว ซึ่งในการตั้งค่ากำลังไฟนอกจากจะช่วยเรื่องพื้นผิวแล้วยังสามารถเป็นตัวกำหนดความลึกของหน้างานได้อีกด้วย

ความสวยงามของชิ้นงาน

CNC พูดตามตรงความสวยงามนั้นเป็นรองกับระบบของ Ray 3D อย่างแน่นอน เพราะในการทำงานนั้นการเจาะเข้าไปในเื้อชิ้นงานนั้น ทางผู้ใช้งานจะไม่สามารถควบคุมเรื่องของความเรียบของพื้นผิวได้เลยอาจจะมีคราบขุยในบางจุดและต้องมีการทำความสะอาดโดยการขัดอีกหลายขั้นตอน

Ray 3D การเลเซอร์ของระบบนี้นั้น เป็นระบบที่มีความละเอียดสูงมาก ทำให้เขม่าที่หลุดออกมานั้นมีขนาดที่เล็กมาก และเรายังสามารถควบคุมจำนวนรอบในการเลเซอร์ได้อีกด้วยทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น สวยงามและเรียบสม่ำเสมอกันนั่นเอง

ระยะเวลาในการผลิต

CNC ระบบที่เน้นความเป็น Phycical เป็นหลัก ซึ่งการทำงานก็จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและทำงานได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่มีสะดุด ซึ่งในการใช้สว่านเจาะเข้าไปในวัสดุนั้น สามารถสร้างหน้างานที่ีความกว้างและลึกได้โดยไม่ยากนัก ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ก็จะลดลงตามไปด้วย (ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้)

Ray 3D ในด้านนี้ระบบเลเซอร์ต้องยอมระบบ CNC จริงๆ ครับเพราะการทำงานของเลเซอร์นั้น จะเน้นที่ความละเอียดเป็นหลักและจะทำงานในรูปแบบ เลเยอร์ต่อเลเยอร์ ความหมายคือเครื่องจะเลเซอร์ลงไปบนผิวงานทีละชั้นลงไปเรื่อยๆ นั่นเอง จึงทำให้ระยะเวลาในการเลเซอร์นั้นเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

การปรับใช้กับงานด้านอื่นๆ 

CNC โดยรวมแล้วเป็นเครื่องที่ใช้หัวสว่านเจาะพื้นผิว ซึ่งจุดเด่นอาจจะเป็นความรวมเร็วในการทำงาน แต่ข้อเสียนั้นก็จะอยู่ที่ในการเจาะนั้นกินเนื้อของวัสดุค่อนข้างมา จึงเหมาะกับงานที่นำไปใช้ทันทีเช่นการแกะสลักป้ายร้านค้า การเจาะเหล็กเพื่อทำรูน็อต การสร้างลวดลายบนแผ่นไม้ เป็นต้น

Ray 3D ด้วยความละเอียดของเครื่องระบบนี้ทำให้เราสามารถจะมองข้ามการทำงานเพื่อความสวยงามไปได้หลายรูปแบบมากๆ ครับ เพราะเราสามารถสร้างสรรค์ทั้งในงานด้านศิลป์ หรืออุตสาหกรรมได้เหมือนกัน อย่างเช่นการทำโม สำหรับหลอมโลหะ พลาสติก เทียนหรือยาง ได้ นอกจากนี้ยังไสามารถแะออกมาเป็นของที่ระลึก หรือทำสัญญาลักษณะที่แบบเฉพาะตัวเพื่อป้องกันการละเมิดลิกขสิทธิ์ได้นั่นเอง